วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

๑ พฤษภา ทวิสต์ซะให้ส่าแก่ใจ






ผมสังเกตุตัวเองมาเป็นเวลา "ครึ่งปี" ก็วินิจฉัยสิ่งเสพย์ติดบ้างอย่างสำหรับตัวเอง....ได้ว่า
ผมกำลัง "ทวิสต์เตอร์ริซึม"  อย่างหงอมแหงม เลยละครับ



พยายามนึกย้อนกลับไป แบบไร้ไทม์แมนชีน ไปประมาณครึ่งปี
โอ้!.....ฝรั่งเศสตกรอบแรกบอลโลกสักแล้ว   เฮ้ย! ไม่เกี่ยว
นึก นึก นึก ........นึกไม่ออกจริงละครับ
แล้วชีวิตผม  มีน้องทวิตส์ไว้เคียงข้างเมื่อไรหว่า?
นึกไม่ได้   ก็ต้องเพ่งทางในกันละที่นี้...............อืม




ผมจำได้เลาๆแล้วละครับว่า ผมกำลังตั้งชื่อ กำหนดพาสเวิร์ด
แต่วอลเปเปอร์ฉากหลัง   แล้วก็  แล้วก็.........หาเพือ่น
ครับ   เพื่อนคนแรกของผม คือ สุทธิชัย หยุ่น  
คนบ้าอะไร  ไม่เคยรู้จักมักคุ้น เคยเห็นตัวเป็นๆ เนื่องด้วยแม่ของคุณหยุ่นเขา
อยู่ตรงข้ามซอยบ้านผม และในงานโรงเรียนในฐานะที่เป็นศิษย์เก่า
ศิษย์เก่าไม่พอ     ยังถึงขั้นระดับ "เชิดชูเกียรติ์"
ติดป้าย ขึ้นบอร์ด ลงวารสารโรงเรียน   เบ็ดเสร็จทุกอย่างครบ
จะยกเว้น.............ก็แค่      "ยิงพรุ" ต้อนรับ กระมังครับ........





พูดง่ายเลย ในทวิสต์เตอร์ภพของผม
ไม่เคยมีเพื่อนจริงๆ ที่ร่วมเรียนกันมา ทำงานบริษัทเดียวกัน ประท้วงม็อบเดียวกัน
ทวิสตเตอร ของผม  จึงเป็นทวิสต์แปลกหน้า ยิ่งกว่าแปลกหน้าสักอีก
และสิ่งที่บอกเล่า    ถ้าไม่ใช่ข่าวในฐานะ สิ่งเคลื่อนไหวในปรากฎการณ์ของสังคม
ก็แทบจะบอกได้เลยว่า  มันไม่เคยมีอะไรที่เป็น "ความเป็นส่วนตัว" (privatecy) เอาสักเลย






ดังนั้น คุณสมบัติบางอย่างที่กำหนดเบื้องต้นของ ทวิสตเตอร์
จึงค่อนข้างผิดเพี้ยนในการใช้งานส่วนตัว   แต่องค์ประกอบเงื่อนไข
ทั้ง ไมโครบล็อกกิ๊ง  ร้อยสี่สิบตัวอักษร รีทวิสต์ เทรนด์ฺ เทือกนั้น
ยังมีอยู่ครบครับ...............
จะว่าไป  เพื่อนชุดอื่นๆ ก็ตามมา จากความนิยมที่เอาฐานของความเป็น "ข่าว"
ว่างไว้ในเบื้องต้น จึงมีทั้ง
aunonline (เจ้าของร้านนมแถวสามย่าน ที่ไม่เคยรู้จัก)
jin_nation (นักข่าวสาวห้าว แห่งเนชั่น ซึ่งก็ไม่รู้จักเช่นกัน)
หรือ fringer (นักแปลชื่อดัง ที่ไม่เคยมีหนังสือเธอสักเล่ม และที่สำคัญคือ ไม่รู้จักอยู่ดี)
สนิทสนม วนเวียน  ส่วนตัว ทุกวี่ทุกวัน  
รับรู้เพียงแต่ รสนิยม ความชอบ ความถนัด  ใส่ใจในแง่ประเด็น
จากนั้น ก็หล่อหลวมแบบเดาทางในบุคคลิกภาพเฉพาะ    ซึ่งอาจจะไม่เป็นจริงตามนั้นก็ได้
แต่สำคัญทำไม?   ในเมื่อไม่รู้จักกันตัวเป็นๆ
เพราะสิ่งที่เราได้ เป็น "ทรรศนะ" ที่ดูเข้ากับจริตแบบเลียบเคียงได้




ผม จึงเป็นแค่นัก following ที่มีคน followed ตัวผมเองบ้าง
ก็ล้วนต่าง ไม่รู้จักค่าหน้าตา  และดูฝ่ายทางโน้น
ก็ไม่ได้ใส่ หรือให้ความสำคัญ   กับตัว "ผม" เองเท่าไร
วัดจากอะไรนะเหรอ?  "ปริมาณของการมีเพื่อน"  ไงครับ
เยอะขนาดนั้นซะ.........วันๆจะไล่เก็บประเด็นทวิสต์   อย่างไรไหว!





กระนั้น ผมก็ยังสนุกกับการติดตาม
เอาทรัพยากรทวิสต์ชาวบ้าน   ------> มาต่อทุน-->อัพบล็อก---->คุยหลังไมค์
เอาทรัพยากรทวิสต์ชาวบ้าน ------>ปะติดปะต่อเรือ่งราว---->อัพเดทให้ทันสมัย
เอาทรัพยากรทวิสต์ชาวบ้าน ------->เสมือนหนึ่งกำลังฟังชาวบ้านเขาเมาท์กัน
ผมจึงไม่เคยเดือดร้อนว่า  ทวิสต์แล้วไม่มีใครอ่าน
หากเอา "ฐานของตัวเอง"  เป็นที่ตั้ง  คือ  เอาประโยชน์ใส่ตัว
แล้วไปเมามัวกับเรือ่ง (ทวิสต์) ของคนอื่น  มีแต่ได้กับได้
เพราะทวิสต์   ไม่ใช่การ 'บังคับ'  แต่ทำเพราะ 'ใจรัก' ของตัวผู้ส่งเอง
จึงไม่ต่างจาก "สามจี" บนอากาศ่   ที่ปล่อยฟรีแล้วแต่ใคร จะแท็บเอา
คนทวิสต์  ก็ได้ 'ชื่อ'   คนรับทวิสต์ ก็ได้ 'ความรู้'  
วิน-วิน กันทั้งสองฝ่าย




ทำให้รู้ว่า คนทุกคน  มีวิธีต่าง  ที่เก๋ไก๋เฉพาะตน
หรือสรุปง่ายๆ ง่า  มี  "กึ๋น"  กันอย่างไรละครับ..............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น