วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

๑๑ พฤษภา ๔๕ Gift . แฮกเกอร์ และสังคมแฝงความรุนแรง






รู้จักไหมคะ ไข่ในหินน่ะ รูไหมว่าคุยอยู่กับใคร
ลืมไปแล้วล่ะสิ กุลสตรีดีเด่นไงคะ อิอิ
ไม่เอาแหละ เดี๋ยวโดนจัดหนักอีก ยิ่งปากจัดๆอยู่ด้วย
แล้วโปรดทราบนะคะ อิชั้นไม่ได้หน้าแบนนะเจ้าค่ะ
ส่วนเรื่องลัดดาแลนด์ มะนาวไม่ได้ดูหรอกนะคะ
มะนาวแค่เข้าไปอ่านในกระทู้เท่านั้นเองค่ะ
แล้วมันตลกที่เขาเอาเรื่องของแม่ชีมาผูกโยงเข้ากับหนังอ่ะค่ะ
ส่วนเรื่องHanamizuki อยากดูค่ะว่ามันเน่ายังไง
เราต้องพิสูจน์ อย่าเชื่อแค่ลมปากคนบอก อิอิ
แล้วจะบอกว่ามะนาวได้ดูละครป๋ายะแล้วนะคะ
เรื่อง"Gift"อ่ะค่ะ ชอบบบบบบมากค่ะ
ป๋ายะหล่อมั่กๆค่ะ ใสปิ๊ง เป็นหนุ่มน้อยที่หล่อบาดใจเหลือเกินค่ะ หลงรักๆ
มะนาวชอบเรื่องนี้มากกว่าLong Vacation,
Love Generation และBeautiful Life อีกค่ะ
เนื้อเรื่องพระเอกสูญเสียความทรงจำไป3ปี
ระหว่างที่ความทรงจำยังไม่คืนมา
ก็ทำงานเป็นคนส่งของแต่แต่งตัวภูมิฐานมากค่ะ
ใส่สูทตลอดแต่พาหนะที่ใช้ หุหุจักรยานค่ะ
ต่อ:ระหว่างทำหน้าที่ส่งของก็เจอะเจอผู้คนและเหตุการณ์มากมาย
ที่ทำให้พระเอกค่อยๆฟื้นความทรงจำคืนมา
และจำตัวเองได้ในที่สุดว่าเป็นใคร
ชอบตอนต้นเรื่องที่เปิดตัวทาคุยะแบบนั้นมากเลยค่ะ
เพราะพอดูไปแล้วทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมถึงเปิดตัวพระเอกแบบนั้น
และด้วยท่านั้น แล้วที่สำคัญซีรีส์เรื่องนี้เนื้อหารุนแรงนะคะ
แต่ผู้กำกับเจ๋งมากค่ะ ทำให้เนื้อเรื่องซอฟท์ลงได้และสนุกด้วยค่ะ
ได้หัวเราะเอิ๊กๆเป็นระยะๆอ่ะค่ะ
โดยที่ไม่กระทบกระเทือนเนื้อหาหลักเลยล่ะค่ะ
เรื่องนี้ถ้าให้คะแนนความชอบนะคะ
มะนาวให้คะแนนความชอบเท่ากับKarei Naru Ichizokuเลยค่ะ
แต่จะบอกว่าเรื่องนี้มะนาวไม่ค่อยรู้จัก
ดาราท่านอื่นๆเลยค่ะ มีคนหนึ่งเปิดตัวได้เท่มากค่ะ
มะนาวดูแล้วหน้าคุ้นๆ ที่แท้แม่ของมาคุงในซีรีส์Tokyo Tower
ป้าMitsuko Baishoนะเองค่ะ เจ้าป้าเท่ระเบิดเลยค่ะเรื่องนี้
ส่วนคนที่แสดงเป็นแฟนเก่าพระเอก
มะนาวก็หน้าคุ้นๆอีก แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกค่ะ
มานึกออกเอาตอนที่11พอดีค่ะ 555ใช้เวลานึกนานมาก
เธอคือยัยตัวร้ายในเรื่องKarei Naru Ichizoku
ที่แสดงเป็นเมียน้อยพ่อพระเอกที่เข้าไปบริหารจัดการในบ้านอ่ะค่ะ
เรื่องนี้กับเรื่องนั้น แสดงบทแตกต่างกันลิบลับเลยค่ะ
แต่มะนาวชอบบทที่เธอแสดงเรื่องKareiมากกว่านะคะ
ถ้ามะนาวเป็นคนแจกรางวัลนะคะ มะนาวจะให้เธอเลยค่ะ
เธอแสดงยังกะมะนาวนึกว่าเป็นตัวเธอเองอย่างนั้นเลยอ่ะค่ะ
แหะ แหะเขียนซะยาวเลย แล้วคุณท่านก็บอกว่า
มะนาวเล่าหมดแล้ว ไม่น่าสนใจ แต่มะนาวว่ามะนาวเล่ากั๊กๆนะคะ
แต่จะบอกว่าเรื่องนี้สั่งซื้อยากมากเลยนะคะ
มะนาวต้องไปหลังไมค์ถามจากสมาชิกบ้านทาคุยะมาน่ะค่ะ
แถมแผ่นที่5ตอนที่8,9คนขายลืมไรท์ซะงั้นค่ะ
มะนาวเปิดดูตอนที่แปดได้แค่ครึ่งเรื่อง
เอ๊!ทำไมดูต่อไม่ได้ นึกว่าเครื่องเล่นของมะนาวเสียซะอีกค่ะ
ปล้ำอยู่ตั้งนาน เปลี่ยนเครื่องเล่นตั้ง3เครื่องก็ยังไม่อ่านแผ่นอีก มันยังไงน๊อ
พลิกดูด้านหลัง อ้าวเขาไรท์มาแค่นั้นเอง เวรกรรมจริงๆค่ะ
เลยอดดูตอนที่9แบบเต็มๆเรื่องเลยค่ะ แง








อ้าว ตกลงหน้าไม่แบนเหรอครับเนี่ย 
แล้วเอาตัวเองไปเทียบกับเจ้าตุ๊กตาซาโบะโบรุทำไมละครับ 
เสียผลิตภัณฑ์โอทอปส์ของเขาหมด หลงเผลอเรียกซาโบะมาตั้งนาน 
งั้นเรียกท่านมะนาวเหมือนเดิมดีกว่า แต่ไม่เป็นไรหน้าไม่แบน อย่างอื่นแบนก็ได้ 


Gift เป็นซีรีย์ที่ได้ยินชื่อมานาน 
แต่หาชมได้ยากมากเลย ไม่นึกว่าท่านมะนาวจะใช้อภิสิทธิ์ 
ไปขุดจากชั้นใต้ดินจากกรุ๊ปแฟนคลับป๋าเขา เรื่องมันคงน่าดูอยู่หรอก 
เพราะมีเจ๊ อิโนอุเอะ ยูมิโกะ คนเขียนบท first kiss ที่กำลังเรียบเรียง 
ว่าจะรีวิวในวันพรุ่งนี้ แต่ไม่ไหวเหรอท่านนะ 
ความรักทำให้คนตาบอด หลงป๋าเสียจนจำใครคนอื่นในเรื่องไม่ได้เลย 
เห็นว่าเปิดเรื่องมา เฮียเขาก็โชว์โป๊เลือดสาดเลยเหรอครับ 
เนือ้เรื่องที่ตลกได้ก็เพราะเจ๊เธอ(เขียนบท)มาสายตลกอ่อนๆ 
อย่างใน first kiss ก็มีเป็นกระสัย แต่ gift ของค่ายฟูจิ 
จะเน้นดาราสาวใหญ่ สาวเเก่เยอะเลยนะคัรบ 
ทั้ง ป้ามูโรอิ ป้าไบโชะ ป้าโคบายาชิ และเอาอีกแล้ว ชิโนฮาระ เรียวโกะ 
มากันครบทีมเช่นเคย ซีรีย์นี้กว่าสิบปีแล้วนิคัรบ 
ยินดีด้วยนะครับได้ดูด้วยกระบวนวิธีพิเศษ 
ส่วนผู้เขียนขอไปหา ขอ้มูล first kiss ต่อละกันนะขอรับ





เอาเป็นว่าไม่มีอะไรแบนก็แล้วกัน ไม่ต้องนึกอะไรแล้วเจ้าค่ะ
ที่มะนาวบอกว่ามะนาวเหมือนตุ๊กตาซารุโบโบะ
ก็เพราะมันเป็นตุ๊กตาไม่มีหน้าตาไงคะ
มันแล้วแต่เด็กที่เป็นเจ้าของจะจินตนาการว่าให้หน้าตาเป็นยังไงแบบไหนไงคะ
ก็ตอนนั้นคุณท่านอยากรู้ว่าหน้าตามะนาวเป็นยังไง
มะนาวก็เลยถามว่าคุณท่านรู้จักตุ๊กตาซารุโบโบะหรือเปล่า
ถ้าไม่รู้จักก็ให้ไปถามอากู๋ไงคะ มะนาวก็นึกว่าพอคุณท่านไปเข้าอากู๋
แล้วเห็นเจ้าตุ๊กตาซารุโบโบะก็คงเข้าใจความหมายที่มะนาวบอก
ว่าหน้าตามะนาวก็แล้วแต่คุณท่านจะจินตนาการว่าให้เป็นแบบไหนไงคะ
ทีนี้คุณท่านคงเข้าใจความหมายแฝงแล้วใช่ไหมคะ
แล้วมะนาวเคยบอกไงคะว่าเรียกมะนาวดีกว่า คุณท่านก็บอกว่าพิมพ์ยาก
ไม่เห็นจะยากตรงไหน ซาโปะ ซาโบะอะไรของคุณท่านพิมพ์ยากกว่าตั้งเยอะ
แถมคุณท่านก็พิมพ์ถูกๆผิดๆอีกต่างหาก เดี๋ยวซาโปะ เดี๋ยวซาโบะ อะไรก็ไม่รู้
คุณท่านได้ข่าวที่บริษัทโซนี่ถูกกลุ่มแฮ็กเกอร์เข้าถล่มข้อมูลของบริษัทไหมคะ
ข่าวบอกว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์"Anonymous"ได้เปิดศึกแก้เผ็ดโซนี่
โดยใช้DDOSเข้าถล่มโซนี่จนเดี้ยง ซึ่งแฮ็กเกอร์กลุ่มนี้
ได้เคยเข้าโจมตีบริการผ่านออนไลน์ชื่อดังอย่างเพย์พอลและอเมซอนมาแล้ว
ได้ประกาศศึกบนโลกไซเบอร์อีกครั้ง โดยคราวนี้พุ่งตรงไปที่เว็บไซต์ของบริษัทโซนี่ค่ะ
เพื่อต้องการแก้แค้นแทนเพื่อนพ้องกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่เจาะระบบเครื่องเกมคอนโซล
"เพลย์สเตชัน3"(PS3) แล้วถูกบริษัทยักษ์ใหญ่เอาผิดทางกฎหมาย
พวกเขาจึงเล่นงานเว็บไซต์เพลย์สเตชัน3จนรวนทั้งระบบ
มะนาวว่าแฮ็กเกอร์พวกนี้เก่งนะคะ
เพราะมะนาวได้ไปอ่านเพิ่มเติมพบว่ากฏของบริษัทไอที
ก็คือห้ามต่อกรกับแฮ็กเกอร์ด้วยไม้แข็งเด็ดขาด
เพราะตัวอย่างก็คือโซนี่ที่เจอหายนะล่าสุดจากการฝ่าฝืนกฏนี้
แล้วแฮ็กเกอร์พวกนี้เขามีงานประจำทำไหมคะ
เพราะการเป็นแฮ็กเกอร์นี้คงเป็นงานอดิเรกของพวกเขาใช่ไหมคะ
แล้วพวกนี้เขาเคยแฮ็กธนาคารไหมคะ
คุณท่านรู้จักมาดามนูห์ไหมคะ
เธอต้องเป็นคนที่เห็นอำนาจเป็นของหวานแน่เลยค่ะ
เพราะมะนาวไปอ่านบทความเจอคำกล่าวของเธอว่า
"Power is wonderful and total power is totally wonderful"
บ้านเราก็คงมีคนที่คิดแบบเธอเหมือนกันนะคะ
ถึงได้ไม่สงบมาจนถึงทุกวันนี้ เฮ้อ!
แล้วรู้ป่าวคะว่า ป้าเอลตัน จอห์น มีลูกแล้วนะคะ
มะนาวเห็นเจ้าป้าอุ้มลูก(ที่ขอมาเลี้ยง)ขี้นปกหนังสือคู่กับคู่ตุนาหงันของเจ้าป้า
เจ้าป้าให้สัมภาษณ์ว่ามีความสุขมาก หลงรักแม้แต่กลิ่นผ้าอ้อมของลูก
กม.อังกฤษนี้ใจกว้างนะคะ ไม่กลัวเรื่องเด็กจะสับสนกับเพศของแม่หรอกหรือคะนี่
มะนาวรู้แล้วค่ะว่าใครเป็นมาเฟียพันทิป
อย่างน้อยก็รู้จักคนหนึ่งล่ะค่ะ คุณท่านรู้จักไหมคะคุณหนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์อ่ะค่ะ
มะนาวไปอ่านสัมภาษณ์ในกรุงเทพธุรกิจ
โปรยไว้เลยว่าหนึ่งในสิบมาเฟียพันทิป
ถ้าไม่ใช่ล่ะก็คุณหนุ่ยรับกรรมแน่ๆ แต่รู้สึกแกจะไม่ปฏิเสธนะคะ
เพราะตั้งแต่คดีห้องก้นครัวแล้วค่ะรู้สึกกระแสมาเฟียพันทิปจะมาแรงอ่ะค่ะ
อ้อ!จะบอกว่ามะนาวเห็นบล็อกคุณท่านที่ห้องโต๊ะข่าวด้วยล่ะค่ะ







ขอโทษที่ททำให้คอยนะขอรับ 
เผอิญว่า วันนี้ปั่นรีวิวเรือ่ง First Kiss แล้วมึนลิงค์ประวัติของฟุมิโกะ 
นี้ยังเห็นว่าไปใช้ชื่อต้นสกุลเขาผิดอีก คงต้องลงไปแก้ไขใหม่ 
แล้วอยู่ๆท่าน prysang ที่หายไปเกือบเดือนครึ่้ง วันนี้ก็โผล่มา 
ทะลักคอมเมนต์ไปสามเรือ่ง อีกทั้งชั่วโมงเน็ตก็หมดอีก 
ต้องไปไล่ซื้อซิมเพื่อต่ออายุใหม่ เพราะตั้งแต่ว่างงาน 
ดันมาราธอนเน็ตเพลินจนเกินวินัยรายเดือนของตัวเองอีก 
เอาเป็นว่า กระเป๋า"แบน"ละกันนะครับ ก็คุณท่านเล่นไปเปรียบ 
กับตุ๊กตาซารุโบะโบ ไอ้ผู้เขียนก็จดจำลักษณะใบหน้าแบนๆ 
เออ ก็เลยอนุมานเอาว่า สงสัยเจ๊ท่านของแบนจริง 
มาประมวลกับไหล่ค้อมๆ ก็เออ ...อาจเป็นโฮโมซาเปียนกลายพันธ์ 
เป็นไปตามความบ้างานวิจัย และคลั่งกระทู้ หมกมุ่นอยู่กับ 
แผ่นกระดาษและหน้าจอ ก็เลยวิวัฒนาการกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้า 
เป็นไง จินตนาการผู้เขียนใช้ได้เลยไหมครับ 
แต่เมื่อบอกไม่ใช่ ก็เท่ากับท่านมะนาวฯได้ทำลายความหวัง 
ที่เป็นความเชื่อร่วมเดือนของผู้เขียนหมดแล้ว 
ต่อไปผู้เขียนจะจินตภาพถึงใบหน้างามๆของท่านอย่างไรละเนี่ย 
โน้น ก็ไม่ใช่ นี้ก็ไม่ใช่......วัยรุ่นชักมึนเสียแล้ว
ข่าวเจ้าเเก็งค์แแฮ็กเกอร์นี้ พอได้ยินผ่านทวิตส์เช่นกันครับ 
แต่ไม่ค่อยมีใครมาช่วยขยายประเด็น มักเป็นหัวข้อข่าวลอยลม 
คือ มาแล้่วก็โดนข่าวทวิตส์ใหม่ไปเตะมลายไป 
ทำให้ระบบออนไลน์เพลย์สเตชั่นนี้มีปัญหา ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะครับ 
เพราะนั้นเป็นระบบเงินถุงเงินถัง เป็นช่องทางสินค้าทำเงินต่อเนื่อง 
ของทางโซนี เทียบได้กับไอจูนของแอปเปิลเลยละครับ 
คงเป็นผลสืบเนื่องจาก วิกิลิงค์ ถ้ามีผลเกี่ยวเนื่องกับอเมซอนและเพย์พอล 
ส่วนมากพวกนี้ จะเข้าเซิร์ฟเวอร์ลิงค์นอกหลายๆทอด 
จนทำให้ตรวจสอบเข้าไม่ถึงผู้ปล่อย แล้วมาซักไซ้ผู้เขียนาทำไมครับ 
ไม่ต้องเลยนะครับ ไม่ใช่แฮ็กเกอร์แมนนะขอโทษ 
แค่หาเงินห้าบาทต่ออายุบล็อกแก็งค์ทุกสิ้นเดือน ก็เหนื่อยพอจะแย่แล้ว 
เอาเป็นว่าไม่รู้นะครับ อย่ามาล่อซื้อเลย ไม่มีตังค์ทอนกับถุงพลาสติกให้หรอก 
เออ....ประเด็นมาเฟียพันทิปนี้่น่าสนใจ 
เขานิยามจากอะไรละครับ ขาใหญ่ รู้มาก หรือชอบรวมกลุ่มสมาชิก 
ป๋่าหนุ๋ยนี้พอเข้าใจว่าแกบ้าสินค้าไอทีมาก แต่ผู้ชายบ้าไอทีนี้ 
มีเยอะในสังคมไทยนะครับ พวกนิตยสารไอทีหัวนอกยังเอาผู้หญิงวาบหวิวมาล่อ 
หนึ่งในนั้นเป็นท่านด้วยรึเปล่าคับเนี่ย ถ้าเจ๊เกี่ยวยังเรียกว่ามาเฟีย 
เจ๊มะนาวทำไมจะเรียกบ้างไม่ได้ เห็นเข้่าๆออกๆ รู้เวลาปล่อยบล็อกของผู้เขียนเรือ่ยเลย 
ถ้าไม่มีวิชา กุมารดี ก็ต้องเส้นสายลูกพี่ลูกน้องเยอะแยะสปายคิวนี้แลย 
แล้วมาดามนูห์นี้ ใครละครับ หยิบแต่ละคนปูทางไว้หน่อยก็ดี 
ตอนนี้ รู้สึกว่าโลกพันทิป กับโลกทวิสต์จะไปกันคนละทาง 
ลิงค์กันไม่ติดสักเรื่องเลย......ดีใจด้วยนะครับที่ไม่แบนเสียแล้ว





ส่วนใหญ่ข่าวที่มะนาวคุยให้ฟัง
เป็นข่าวที่มะนาวอ่านจากบทความในหนังสือพิมพ์อ่ะค่ะ
ไม่ใช่ในพันทิปหรอกค่ะ
คือมะนาวชอบอ่านบทความต่างๆ
ในหนังสือพิมพ์รายวันหรือในพวกรายสัปดาห์อ่ะค่ะ
หนังสือพิมพ์นี้เรียกว่ามะนาวไม่อ่านข่าวหน้าแรกเลยนะคะ
มะนาวชอบอ่านแต่บทความข้างในมากๆค่ะ
แล้วถ้าเรื่องไหนน่าสนใจก็จะเอามาเล่าให้คุณท่านฟังไงคะ
ไม่ใช่ว่าพันทิปกับทวิตเตอร์ไม่ไปด้วยกันหรอกค่ะ
มะนาวไม่รู้หรอกค่ะอันนั้น ส่วนใหญ่
ถ้าเป็นห้องเฉลิมไทยก็จะเป็นการอ้างมาจากFBมากกว่าค่ะ
ส่วนช่วงนี้ที่มะนาวไปห้องโต๊ะข่าวก็เพราะมะนาวตามข่าวเรื่องบินลาเดนอยู่อ่ะค่ะ
มะนาวถึงได้เห็นบล็อกของคุณท่าน และได้เข้าไปจิ้มอ่านด้วยค่ะ
เพียงแต่ไม่ได้เม้นท์เท่านั้นเองค่ะ
กระทู้บินของลาเดนทำให้มะนาวได้ความรู้เกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายมุสลิมเยอะแยะเลยค่ะ
ส่วนเรื่องมาดามนูห์นั้นอ.วรากรณ์ สามโกเศศได้เขียนไว้ในนสพ.มติชน
ว่าเธอคือสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเวียดนามใต้ระหว่าง ค.ศ.1955-1963
ซึ่งถึงแม้เธอจะไม่มีสามีเป็นประธานาธิบดีหรือนายกรัฐมนตรีก็ตาม
แต่เธอมีทั้งอำนาจและฝีปากที่ร้ายกาจ
ซึ่งมีส่วนนำไปสู่การรัฐประหารและความตายของสามีเธอ
และสุภาพบุรุษหมายเลขหนึ่ง ตลอดจนการแตกแยกกับพ่อแม่ของเธอ
และชะตากรรมที่น่าสังเวชของทั้งพ่อและแม่ของเธอในเวลาต่อมา
เธอเพิ่งจากโลกนี้ไปในวัย 87 ปี เมื่อปลายเดือนเมษายน 2011 นี้เองค่ะ
ชีวิตเธอน่าสนใจและให้บทเรียนไม่แพ้สุภาพสตรีคนอื่นๆ ของโลกเลยค่ะ
เธอเคยหัวเราะเยาะที่พระเผาตัวเองประท้วงด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องมือเขียนบทมะนาวก็ไม่กล้าเขียนนามสกุลเธอลงไปเหมือนกันค่ะ
เพราะตอนแรกคุณท่านบอกว่า"อุเอะโนจิ ยูมิโกะ"
แต่พอตอนหลังบอกว่า"อิโนะอุเอะ ยูมิโกะ"เหมือนสกุลนางเอก
มะนาวเลยสับสน เลยเขียนแต่ชื่อดีกว่าอ่ะค่ะ
แล้วคุณท่านรู้จักนามปากกาหลวงเมืองไหมคะ
ที่เขียนในหนังสือพิมพ์มติชนรายวันคอลัมน์"บทความธรรมดา"อ่ะค่ะ
มะนาวได้อ่านตอนท่านเขียนเรื่องนั่งทางใน
โดยบอกว่าสมัยคนเขียนยังเด็ก คนนิยมนั่งทางในกันมาก
แถวบ้านของคนเขียนคือตลาดพลูก็นิยมมากเช่นกัน
ท่านเขียนเล่าเหตุการณ์ว่ามีสุภาพสตรีชราคนหนึ่ง
เดินจงกลมช้าๆหลังจากนั้นก็ร้องเอ็ดตะโรด่าโขมงโฉงเฉง
ว่าถูกคนจับหน้าอก ได้มีไทยมุงออกมาดูกันใหญ่ว่าหญิงแก่อายุ70ปี
ที่เหี่ยวไปทั้งตัว ทำไมถึงถูกจับหน้าอกได้
ได้มีการถามไถ่เจ้าหนุ่มคนที่จับหน้าอกนี้ว่ามีสาวๆตั้งเยอะให้จับทำไมถึงไม่จับ
ไปจับนมคนแก่ทำไม หนุ่มคนนี้หัวเราะและตอบว่า
"ฉันได้ยินยายบอกว่าบรรลุสูงกว่าพระโสดาบันแล้ว
จึงทดลองดูเท่านั้น นึกว่าจะละโกรธได้ ก็รู้ว่ายังโกรธอยู่
ฉันก็กราบขอขมาล่ะจ่ะ"
555 ฉลาดแฮะ รู้จักวิธีพิสูจน์ง่ายๆ
มะนาวไม่ได้เล่าเรื่องแก่แดดนะค๊า







ท่านมะนาวนี้ได้ทำลายแบบแผนการเรียนการสอน 
ของเด็กนิเทศศาสตร์หมดเลยนะครับ 
ซื้อนสพ.แล้วไม่อ่านหน้าหนึ่งนี้ ถ้าประชากรปท.ครึ่ง 
ทำตัวอย่างท่าน บก.หัวหน้าข่าวคงได้ตกงานกันหมดแน่ 
เพราะบทความ มันไม่ได้ขายความหวือหวา 
ความสด การเป็นประเด็นสังคม 
แล้วไอ้ที่เป็นประเด็น คุณท่านก็ดันไปแสวงหาในพันทิปเสียอีก 
ซื้อนสพ. ได้คุณค่าแค่บาท สองบาทเท่านั้น 
อย่างน้อยก็ดีอย่าง เพราะผู้เขียนแทบไม่ได้แตะ 
นสพ.เป็นปีแล้วละครับ กลัวหมึกมันเปื้อนมือนะครับ 
ไม่อยากสกปรก เปล่าหรอกครับ 
แต่เพราะข่าวอินเตอร์เน็ตมันมีความฉับไวกว่า 
แม้การย่อยข่าวจะไม่เทียบเท่าในนสพ. 
เคยฟังอ.วีระ เล่าผ่านวิทยุว่า 
คนที่นิยมอ่านข่าวในเน็ต จะมีค.สามารถ 
ในการวิเคราะห์ไม่เท่ากับคนที่นิยมอ่านนสพ. 
จริงรึเปล่าไม่รู้ จะเอาท่านเป็นบรรทัดฐานก็ไม่ได้ด้วย 
(ไม่รู้เอาเข้าจริง เปิดหน้าบันเทิงก่อนอะป่าว)
ท่านมะนาวน่าจะได้ยินข่าว กระแสเห่อไอเพคสอง 
อยู๋บ้างสินะครับ ทำเอาจำนวนที่นำเข้าไม่พอขาย 
ต่ออายุเครื่องหิ้วมาบุญครองได้ต่อยืดฟันกำไรอีกนาน 
แม้แต่อาตี๋อาหมวยเมืองจีน มีไม่ต่ำกว่าครึ่งวัน 
ไปนอนรอเปิดร้าน 'เห่อ 'นี้ เป็นผลพ่วงทุนนิยมจริงๆ 
เลยนะครับ นึกๆแล้ว 
ตัวเองต่อให้อยากได้ของชิ้นนั้นมากแค่ไหน 
ให้ไปยืนรอเป็นชม. ก็ไม่เอาด้วยหรอก 
สังเกตมานานแล้วว่า โชเชียลมีเดียมันส่งผล 
ต่อการกระตุ้นการบริโภคให้หิวกระหายมากขึ้น 
และมีความอดทนน้อยลง ไม่สนการฟังรีวิว 
คอมเมนต์หรือเสียงโอดจากผู้ซื้อก่อนตัดสินใจ 
มานึกส่งท้ายว่า เมื่อของชิ้นตกรุ่นไป 
เขาจะหัวเราะใส่ตัวเองที่หลงไปยืนตั้งนานรึเปล่า 
รอหลังไมค์ของท่านยังมีค่ากว่าตั้งเยอะ:-)





แหม! ทำไมรู้ล่ะว่ามะนาวเปิดหน้าบันเทิงก่อน
555 ทายถูกเผงเลยค่ะ เปิดหน้าบันเทิงก่อนแน่นอน
อิอิพูดเล่น(มีส่วนจริงเยอะ) มะนาวก็เปิดไล่หน้าล่ะค่ะ
เพียงแต่ถ้าไม่มีเวลาก็เปิดหน้าบันเทิงอย่างเดียวอ่ะค่ะ(เฉพาะหัวเขียว)
แต่จากที่บ้านมะนาวรับหนังสือพิมพ์หลายฉบับ
ฉบับอื่นๆมะนาวก็เก็บสต็อกไว้อ่านทีหลัง
บางครั้งคุณท่านถึงได้ยินมะนาวบ่นว่า
หนังสือพิมพ์กองท่วมตัวจนจะล้มทับอยู่แล้ว
(จริงๆมะนาวไม่ได้บ่นหรอกค่ะ แต่มะนาวถูกที่บ้านบ่นตะหากล่ะคะ)
ส่วนกระแสไอเพด2 มะนาวอ่านเจอเหมือนกันค่ะ
ว่าตี๋หมวยเมืองจีนแทบจะตีกันตาย
แต่ไม่ได้สนใจเท่าไหร่เลยอ่านข้ามๆอ่ะค่ะ
แต่มะนาวได้ไปอ่านเรื่องไอเพ็ด2ในบล็อกคุณท่านแล้วนะคะ
จะบอกว่า หลวงตาขา หลังไมค์ให้มะนาวอ่าน
ไม่ต้องเกร็งหรอกนะคะ เพราะมะนาวชินแล้วค่ะ
กับปริศนาตัวอักษร สระ วรรณยุกติ์อยู่คนละทิศละทาง
มะนาวว่าสนุกดีออกค่ะ เหมือนเล่นปริศนาอักษรไขว้ไงคะ
อ่านแล้วเอ๊ ตัวนี้อะไรนะ มีรสชาติดีออกค่ะ
ที่มะนาวพูดอย่างนี้เพราะว่า วันนี้อ่านแล้วมันแปลกๆอ่ะค่ะ
คือไม่มีคำผิด ถึงมีก็แค่ตัวเดียว แล้วมีการจัดบรรทัดด้วย
มันเลยดูแข็งๆเหมือนจะไม่ใช่คุณท่านอย่างนั้นอ่ะค่ะ แล้วดูเกร็งๆด้วยค่ะ
คุณท่านคุยกับมะนาวไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้หรอกค่ะ มะนาวชินแล้วค่ะ
แต่ในกรณีที่คุณท่านปล่อยของ คืออย่างนั้นมะนาวไม่ได้อ่านคนเดียว
มีคนเข้ามาอ่านอีกเยอะแยะ คุณท่านตรวจทานหลายครั้งก่อนปล่อยก็ดีแล้วค่ะ
สัปดาห์นี้มติชนแนะนำหนังสือน่าอ่านเล่มหนึ่งค่ะ
ชื่อ"ความรุนแรงซ่อน/หาสังคมไทย"
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย"สันติวิธี ความรุนแรงและสังคมไทย"
ในโครงการเมธีวิจัยอาวุโส โดยการสนับสนุนของ
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.)
เนื้อหาวิจัยโดยรวมพูดถึงประเด็นความรุนแรงที่ปรากฏ
และซ่อนอยู่ในสังคมไทยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
นับตั้งแต่ความรุนแรงทางการเมือง
ความรุนแรงในขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม
ความรุนแรงในโรงเรียน สงครามยาเสพติด และการประหารชีวิต
เนื่องเพราะเหตุความขัดแย้งที่ลากยาวในทุกวันนี้
และดูว่าคงไม่มีทางคลี่คลายได้ในเร็ววัน
คงทำให้หลายคนสงสัยเหลือเกินว่า สังคมไทยมาถึงวันนี้ได้อย่างไร
ซึ่งจะไม่สงสัยได้ยังไง ในเมื่อสังคมไทยมีกรอบความคิด
และวิธีการเข้าใจตัวเองที่ฝังรากกันมาชั่วกัปชั่วกัลป์ว่าเรานี่ช่างเป็นสังคม
ที่สงบสันติ ไม่ใฝ่ความรุนแรง เพราะเราเป็นเมืองพุทธ ดำรงอยู่ในสันติธรรม
พอมีปัญหาก็มีแคมเปญรณรงค์กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า"ขอความสุขกลับคืนมา"
สังคมไทยสุขสงบสดชื่นขนาดนั้นจริงหรือ
หรือจริงๆเป็นเพียงมายาคติที่ถูกสร้างขึ้น
เพื่อกวาดขยะทั้งหลายไปซุกไว้ใต้พรม
Duncan Macargoนักวิจัยทางไทยศึกษาเคยตั้งข้อสังเกตว่า
สังคมไทยเป็นสังคมที่"รุนแรงอย่างลึกล้ำ"(profoundly violent society)
เพียงแค่พิจรณาจากคดีฆาตกรรมในสังคมไทย
ก็จะพบว่าสังคมไทยฆ่ากันมากกว่าประเทศทั้งหลายในเอเชีย
จะเป็นรองก็แต่มองโกเลียเท่านั้น
จริงๆแล้วสังคมไทยก็เหมือนสังคมมนุษย์ทั่วไปนั่นล่ะ
ความรุนแรงก็ดำรงอยู่คู่กับร่องรอยแนวทางแห่งสันติ ไม่ได้ต่างไปจากใครเลย
ขอเพียงยอมรับความจริงบ้างก็น่าจะดี
และบางส่วนของความจริงก็ปรากฏในหนังสือ"ความรุนแรงซ่อน/หาสังคมไทย"
เป็นไงค่ะ อ่านน้ำจิ้มหนังสือเล่มนี้แล้วอยากซื้ออ่านไหมคะ
มะนาวลิสต์ไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปซีเอ็ดเมื่อไหร่คงได้ซื้อติดมือกลับมาแน่ค่ะ
มะนาวมีข่าวน่ารักๆมาเล่าค่ะ มี"หนอนน้อย"แขกไม่ได้รับเชิญ
ในพระฉายาลักษณ์หมู่ราชวงค์อังกฤษ ทายสิคะ ว่าใครถือ ฮิฮิ





ที่ดูเรียบร้อยผิดวิสัย ก็มิใช่อะไรหรอกขอรับ 
มัน้เป็นการพิมพ์ผ่านมือถือนะขอรับ 
ความพริ้วอาจไม่ได้เท่ากับตอนที่พิมพแป้น 
ในเมื่อระยะนี้ ไม่อยากบูทเครื่องแล้วต้องมาถอดซิม 
เพื่อเชื่อมสัญญาณเน็ตอีกเครื่อง 
ก็อาศัยเส้นทางคอมผ๋านมือถือเลยละกัน 
พยายามทำเหมือนหนูยูอิที่เล่นซีรีย์เรื่อง Papa to muzume 
คุณสมบัติที่วัยรุ่นญี่ปุ่นรุ่นเจเนเรชั่นนี้ถนัด 
ก็คือ ความสามารถสร้างวรรณกรรมผ่านมือถือนี้แหละครับ 
อย่างในเรื่อง Sky of Love ทำไปได้ไงที่จะสร้างนิยายสักเรื่อง 
ด้วยการพิมพ์ปุ่มมือถือเพียง12ปุ่ม แล้วน้ำเน่าเพ้อฝันได้ใจ 
เคยพยายามอัพบล็อกผ่านมือถือ คงด้วยวัยไม่รุ่นมั้ง 
ก็เลยตายตั้งเพียงเกริ่นเรื่องเท่านั้น์
เวลาเห็นท่านมะนาวฝักใฝ่เรื่องทะลึ่งนี้ 
ตรงคอลัมภ์แนะนำหนังสือของมติชนสุดฯ 
"เช็คสต็อกหนังสือ กับหนุงหนิง" ก่อนจบ 
จะแถมทิ้งท้ายกับมุขทะลึ่งตึ่งตัง ผู้เขียนคิดวาท่าน 
จะต้องนอนตัดแปะ หรือไม่ก็ถ่ายเอกสารใส่กรอบไว้แน่เลย 
แล้วหลังๆค่ายนี้ นิยมเอาการ์ตูนทะลึ่งมาลง 
ไม่รู้ว่าท่านไปส่งไปรษณีย์ยุให้ลงเรื่องพวกนี้เยอะๆอะป่าว 
แค่สงสัย ไม่ได้แจ้งความเท็จนะขอรับ
พวกหนังสือความรุนแรงนี้ เคยเห่ออยู่พักนึง 
จะเป็นงานของอ.ชัยวัฒน์ สถาอนันต์ พวกสันติประชาธรรม 
และสนพ.วิถีทรรศน์ เรื่องสังคมไทยซุกซ่อนความรุนแรงไว้ 
อันนี้เป็นเรื่องเก่าแล้วละครับ อย่างหนังสือการเมืองของเสือแดง อ.นิธิ ก็วิพากษ์นักคิด 
กลุ่มหนึ่งที่มีค.คิดไร้เดียงสา อยากเห็นสงบสุขเอื้อเฟือ 
จนเป็นเอกลักษณ์ไทย เพราะรัฐไทยแต่โบราณ 
ก็วางยา ล้างโคตร แย่งสมบัติหลาน สมัยรัตนฯตอนต้น 
ก็ปราบอังยี้จนเลือดเต็มบางปะกง สมัยปราบคอมมวนิสต 
ขบวนการนักศึกษา ก็ใช้กำลังบีบจนต้องเข้าป่าถือปืน 
ฆ่าหน.มุสลิม ส่งเสริมชนกลุ่มน้อยให้เป็นกันชนเพื่อนบ้าน 
ยิงหัวคะแนน ใช้อำนาจนอกระบบโดยการอุปถัมภ์ของคน 
ที่อยู่ในระบบ คนกลุ่มนึงถึงเกลียดอำมาตย์มาก 
ขณะที่คนอีกกลุ่มเชื่ออำนาจนอกระบบ เพราะไม่เชื่อมั่นในระบบ 
แต่เมื่อเกิดตัวละครเรยา ที่แสดงออกถึงค.รุนแรง 
เชิงพฤติกรรม แทนที่จะให้สังคมตัดสินถึงผลลัพธ์ท้ายละคร 
รัฐก็กดปัญหาด้วยตัววิ่ง แทนที่จะทำให้เรยา เป็นตัวแบบ 
ความชิงชังให้ผู้คนหลีกเลี่ยงที่จะหลอกเลียน 
เอออ่านในทวิสต์ ทราบว่าคนเขียนบทเป็นของอ.สมเถา 
ที่เป็นนักไวทยากรณ์นิครับ แม่กับลูกคนละแนวกันจริงๆเลย์
วันนี้อ่านสื่อญี่ปุ่น ของอ.สุภา 
ใกล้จะจบเล่มแล้วครับ โดยสรุปนะครับ 
สื่อมวลชนที่นั้น ที่ดีก็ดีอย่างยอดเยี่ยม 
ในแง่การนำฮาร์ดแวร์มาใช้ประโยชน์ การแข่งขัน 
ธรรมเนียมจรรยาบรรณ แต่ที่เข้าขั้นเลวร้าย 
ก็ร้ายสุดๆ ชนิดคงสื่อกับคนภายนอกปท.เท่านั้น 
อย่างพวก ชอบเลียนแบบ ติดกรอบเรตติ้ง ไวด์โชด์ 
บ้าสนุกไม่ใส่ใจสาระ เอาเข้าจริงมีแค่ซีรีย์เท่านั้นมั้งคับ 
ที่เป็นสิ่งดีอย่างเดียวที่ผู้เขียนเห็นในคุณค่าอยู่ 
เปลี่ยนโลกในสายตาเชิดชเดิม ยิ่งทำให้เกลียดยิ่งกว่าทีวีไทยสักอีก 
แล้วมีตัวอย่างหนึ่ง ทำให้ผู้เขียนนึกถึงข่าวช็อกวงการ 
คือ เมื่อปี1989 ซูเปอร์สตาร์บ้านเขาตอนนั้น 
Tamako Yukiko ฆ่าตัวตายจากชั้นเจ็ดบนสถานีค่ายเพลงแห่งนึง 
ทุกวันนี้ความตายเธอยังเป็นปริศนา ถ้าทุกวันนี้เธอยังอยู่ 
น่าจะอายุ 40 ปี เรียกว่า น้องอามุโระ เจ๊มัตซู ป้่มิกกะ 
เทียบเธอไม่ติดฝุ่น ความตายของเธอทำให้เกิดกระแส 
yukiko syndrom มีแฟนคลับฆ่าตัวตายตามเท่าที่พิสูจน์ได้ 
กว่า 28คน ที่เธอมัดใจคนได้วิเคราะห์ว่า เธอเป็นสาวน้อยธรรมดา 
ที่เป็นตัวแทนความหวังของคนทั้งปท. 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น